การปฏิวัติเอธิโอเปียปี 1974 การล้มสลายของระบอบจักรวรรดิและการกำเนิดของรัฐสังคมนิยม
การปฏิวัติเอธิโอเปียปี 1974 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของประเทศอย่างถอนไม่กลับ อันเป็นผลมาจากความไม่พอใจสะสมของประชาชนต่อระบอบจักรวรรดิซึ่งนำโดยจักรพรรดิเฮลี เซลาสซี และการขาดแคลนทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
สาเหตุของการปฏิวัติมีหลายประการ อาทิเช่น:
- ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและเศรษฐกิจ: ระบอบจักรวรรดิเอธิโอเปียในขณะนั้นมีช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนกว้างมาก ชาวนาส่วนใหญ่ยังคงยากจน และไม่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาของประเทศ
- ความล้มเหลวในการปฏิรูป: แม้จักรพรรดิเฮลี เซลาสซี จะพยายามทำการปฏิรูปหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างได้อย่างแท้จริง
- อิทธิพลของแนวคิดคอมมิวนิสต์: ในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 แนวคิดคอมมิวนิสต์และสังคมนิยมเริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก รวมทั้งในเอธิโอเปียด้วย
- ภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ: สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคง ภัยแล้ง และการขาดแคลนอาหารเป็นตัวเร่งให้เกิดความไม่พอใจของประชาชน
การปฏิวัติเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1974 โดยกลุ่มทหารหนุ่มที่เรียกตัวเองว่า “คณะกรรมาธิการเพื่อการปกครองระหว่างประเทศ” (Dergue) ซึ่งนำโดย العقيد Mengistu Haile Mariam
เหตุการณ์สำคัญ | รายละเอียด |
---|---|
กุมภาพันธ์ 1974 | การประท้วงและนัดหยุดงานครั้งใหญ่เกิดขึ้นในกรุงอาดดิส อาบาบา |
มีนาคม 1974 | จักรพรรดิเฮลี เซลาสซี ลี้ภัยไปต่างประเทศ |
กันยายน 1974 | คณะกรรมาธิการเพื่อการปกครองระหว่างประเทศ (Dergue) ยึดอำนาจ |
หลังจากยึดอำนาจ Dergue ได้ประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนเอธิโอเปีย และดำเนินนโยบายสังคมนิยม เช่น การยึดที่ดินของขุนนางและการให้สิทธิแก่ผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม ระบอบ Dergue ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากฝ่ายตรงข้าม และความรุนแรงเกิดขึ้นทั่วประเทศ
- สงครามกลางเมือง: การปฏิวัตินำไปสู่สงครามกลางเมืองที่ยาวนานระหว่างรัฐบาล Dergue กับกลุ่มกบฏต่าง ๆ เช่น EPRP และ EPLF
- ภาวะอดอยาก:
นโยบายของ Dergue ทำให้เกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ และนำไปสู่ภาวะอดอยากครั้งใหญ่ในปี 1983-1985
- การละเมิดสิทธิมนุษยชน: รัฐบาล Dergue มีชื่อเสียงด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
ในที่สุด Mengistu Haile Mariam ก็ถูกโค่นล้มในปี 1991 และรัฐบาลชุดใหม่นำโดยพรรค EPRDF ได้ขึ้นมาปกครองประเทศ
บทสรุป
การปฏิวัติเอธิโอเปียปี 1974 เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงประเทศอย่างกว้างขวาง มีทั้งผลดีและผลเสีย การปฏิวัติทำให้เกิดความเท่าเทียมทางสังคมมากขึ้น แต่ก็นำไปสู่สงครามกลางเมืองและการละเมิดสิทธิมนุษยชน